การทำงาน ของ ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ

เขาประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว เรื่อยมากระทั่งในปี พ.ศ. 2538 จึงได้หันเข้ามาสู่งานการเมืองเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2539 ได้ย้ายมาสังกัดพรรคความหวังใหม่ และในปี พ.ศ. 2544 ได้ย้ายมาสังกัดพรรคไทยรักไทย, พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย (ตามลำดับ)

เขาเคยดำรงตำแหน่งทางการเมืองหลายตำแหน่ง ได้แก่ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (เสนาะ เทียนทอง) ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ชูชีพ หาญสวัสดิ์) รองประธานกรรมาธิการติดตามงบประมาณ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ทำหน้าที่เลขานุการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์) และในปี พ.ศ. 2545 เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์)

ต่อมา เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินออกหมายเรียกเนื่องจากอาจมีส่วนรู้เห็นกับการเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากเป็นแกนนำของกลุ่มร่วมกับสุพล ฟองงาม แต่ท้ายที่สุดก็ได้มีการตัดสินคดีลงโทษผู้กระทำผิดตามกฎหมาย[3] โดยมิได้เกี่ยวข้องกับเขาแต่อย่างใด

ใกล้เคียง